หลายคนคงเคยเจอสถานการณ์ที่เจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์แจ้งว่า “ต้องทำประกันตัวนี้ด้วยนะครับ ถึงจะอนุมัติ” หรือ “ทำประกันนี้แล้วดอกเบี้ยจะถูกลง” จนเกิดคำถามคาใจว่า “ประกัน สินเชื่อ รถยนต์ ไม่ ทํา ได้ไหม?” กฎหมายบังคับจริงๆ หรือเป็นแค่เทคนิคการขาย?
บทความนี้จะมา “กางกฎหมาย” และไขข้อข้องใจให้กระจ่าง เพื่อให้คุณรักษาสิทธิ์ของตัวเองได้อย่างถูกต้องครับ
ประกัน สินเชื่อ รถยนต์ ไม่ ทํา ได้ไหม? เคลียร์ชัด! กฎหมายว่าไง บังคับหรือไม่?
ขอตอบฟันธงตรงนี้ก่อนเลยครับว่า “ไม่ทำก็ได้” และ “ไม่มีกฎหมายข้อไหนบังคับให้ลูกค้าต้องทำ” ครับ
ประกันที่เรากำลังพูดถึงนี้ เรียกว่า “ประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ” (Credit Life Insurance) หรือบางทีเรียกว่าประกัน MRTA ซึ่งเป็นคนละตัวกับ “ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1, 2, 3” หรือ “พ.ร.บ.” นะครับ
-
พ.ร.บ.: กฎหมาย “บังคับ” ต้องทำ
-
ประกันชั้น 1 (ปีแรก): ไฟแนนซ์มัก “บังคับ” (เป็นเงื่อนไขทางธุรกิจ เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินของเขา)
-
ประกันสินเชื่อ (คุ้มครองคนกู้): กฎหมายระบุชัดเจนว่า “ห้ามบังคับ” เป็นความสมัครใจของลูกค้าล้วนๆ
กฎ คปภ. ระบุชัด “ห้ามบังคับขายพ่วง”
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีมาตรการกำกับดูแลเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด โดยระบุว่า:
“สถาบันการเงินไม่สามารถบังคับให้ลูกค้าทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อเป็นเงื่อนไขในการอนุมัติสินเชื่อได้”
หากเจ้าหน้าที่บอกว่า “ถ้าไม่ทำ จะไม่อนุมัติ” ถือว่าเป็นการกระทำที่ ไม่ถูกต้อง และผู้บริโภคสามารถร้องเรียนได้ครับ
แล้วทำไมไฟแนนซ์ถึงพยายามขาย? และข้อเสนอ “ลดดอกเบี้ย” คืออะไร?
แม้จะบังคับไม่ได้ แต่สถาบันการเงินมักจะมี “ข้อเสนอพิเศษ” เพื่อจูงใจให้ลูกค้าทำประกันตัวนี้ครับ ซึ่งเป็นเรื่องของการเจรจาต่อรองทางธุรกิจที่ทำได้
-
แลกกับดอกเบี้ยถูกลง: ไฟแนนซ์อาจยื่นข้อเสนอว่า “ถ้าทำประกันสินเชื่อ ดอกเบี้ยรถจะลดลง 0.10% – 0.20% ต่อปี”
-
ในกรณีนี้: คุณต้องลองคำนวณดูว่า “ส่วนลดดอกเบี้ยที่ได้” คุ้มกับ “ค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายเพิ่ม” หรือไม่ ถ้าคุ้มก็ทำได้ครับ
-
-
ช่วยให้ผ่านง่ายขึ้น (ในทางจิตวิทยา): สำหรับเคสที่เครดิตก้ำกึ่ง (เช่น รายได้ปริ่มๆ, อาชีพเสี่ยง) การมีประกันอาจช่วยลดความเสี่ยงในสายตาของเจ้าหน้าที่สินเชื่อได้บ้าง (แต่ไม่ใช่กฎตายตัวว่าทำแล้วจะผ่านเสมอไป)
ประกันสินเชื่อรถยนต์ มีประโยชน์อย่างไร? (ทำไมบางคนถึงยอมทำ)
แม้จะไม่บังคับ แต่ประกันตัวนี้ก็มีข้อดีที่น่าสนใจสำหรับบางครอบครัวครับ
-
หลักการ: หากผู้กู้ “เสียชีวิต” หรือ “ทุพพลภาพถาวร” บริษัทประกันจะเข้ามา “จ่ายหนี้รถที่เหลือให้ทั้งหมด” (ตามวงเงินคุ้มครอง)
-
ข้อดี: รถจะตกเป็นของทายาททันทีโดยไม่ต้องผ่อนต่อ ไม่ทิ้งภาระหนี้ก้อนโตไว้ให้ลูกหลานหรือคนค้ำประกัน
เหมาะกับใคร: ผู้ที่เป็น “เสาหลักของบ้าน” หารายได้คนเดียว และกังวลว่าหากตัวเองเป็นอะไรไป ครอบครัวจะลำบากและโดนยึดรถ
เผลอเซ็นทำไปแล้ว… ยกเลิกได้ไหม?
หากคุณโดนหว่านล้อมจนเซ็นสัญญาทำประกันไปแล้ว แต่กลับมาคิดได้ทีหลังว่าไม่อยากทำ หรือจ่ายไม่ไหว คุณมีสิทธิ์ “ขอยกเลิกกรมธรรม์” ได้ครับ
-
สิทธิ์ Free Look Period: โดยปกติคุณสามารถขอยกเลิกกรมธรรม์ได้ภายใน 30 วัน หลังจากได้รับเล่มกรมธรรม์
-
การขอเวนคืน: หากเลยกำหนด 30 วันไปแล้ว ก็ยังยกเลิกได้ แต่จะได้รับเงินคืนไม่เต็มจำนวน (ได้คืนตามมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์ในขณะนั้น)
-
วิธีทำ: ติดต่อ Call Center ของ “บริษัทประกัน” (ไม่ใช่ไฟแนนซ์รถ) เพื่อแจ้งขอยกเลิก หรือเวนคืนกรมธรรม์ครับ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1: เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าไม่ทำประกันสินเชื่อ ยอดจัดจะได้น้อยลง จริงไหม? A: อาจมีส่วนจริงในบางกรณีครับ เพราะการทำประกันต้องใช้เงิน (ค่าเบี้ยประกัน) ซึ่งไฟแนนซ์มักจะรวมค่าเบี้ยนี้เข้าไปใน “ยอดจัด” (กู้เพิ่มมาจ่ายค่าประกัน) ดังนั้นถ้าไม่ทำ ยอดจัดรวมก็จะลดลงเท่ากับค่าเบี้ยประกันที่หายไปครับ
Q2: ประกันชั้น 1 กับ ประกันสินเชื่อ อันไหนที่ไฟแนนซ์บังคับ? A: “ประกันชั้น 1” ครับ โดยเฉพาะรถป้ายแดงหรือรถมือสองปีใหม่ๆ ไฟแนนซ์มีสิทธิ์บังคับให้ทำในปีแรก เพื่อคุ้มครองหลักทรัพย์ (ตัวรถ) ของเขาครับ ส่วน “ประกันสินเชื่อ” (คุ้มครองคน) บังคับไม่ได้ครับ
Q3: ถ้าเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า “เป็นนโยบาย ต้องทำเท่านั้น” ควรทำอย่างไร? A: ให้ขอเอกสารยืนยันที่เป็นลายลักษณ์อักษรครับ หรือโทรสอบถาม Call Center ของสำนักงานใหญ่ต่อหน้าเจ้าหน้าที่เลย หรือแจ้งว่าจะร้องเรียน คปภ. สายด่วน 1186 ส่วนใหญ่ท่าทีของเจ้าหน้าที่จะเปลี่ยนไปทันทีครับ
รุปสั้นๆ สำหรับคำถาม “ประกัน สินเชื่อ รถยนต์ ไม่ ทํา ได้ไหม” คำตอบคือ “ได้ครับ”
คุณมีสิทธิ์ปฏิเสธได้อย่างเต็มที่หากมองว่าเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่าย แต่หากคุณลองคำนวณแล้วเห็นว่า การทำประกันช่วยลดดอกเบี้ยได้คุ้มค่า หรือต้องการความอุ่นใจให้คนข้างหลัง การเลือกทำไว้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ
ขอให้ตัดสินใจบนพื้นฐานของ “ความจำเป็น” และ “ความคุ้มค่า” ของตัวคุณเองเป็นหลักครับ!
อ่านบทความเกี่ยวกับสินเชื่อรถกระบะเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ใส่ความเห็น