อัตราสิ้นเปลือง รถกระบะ

อัตราสิ้นเปลือง รถกระบะ 10 รุ่นดัง เช็กลิสต์ ใครประหยัด ใครกินน้ำมันที่สุด

รถกระบะ…ไม่ใช่แค่เครื่องแรง บรรทุกดี หรือดีไซน์เท่ แต่ “อัตราสิ้นเปลือง” หรือความประหยัดน้ำมันก็กลายเป็นจุดตัดสินใจสำคัญของใครหลายคน โดยเฉพาะในยุคที่น้ำมันแพงทุกวัน บทความนี้ อัตราสิ้นเปลือง รถกระบะ เรารวมมาให้ครบ 10 รุ่นยอดนิยมในไทย พร้อมเปรียบเทียบอัตราสิ้นเปลืองแบบละเอียด อ่านจบ ตัดสินใจง่าย ไม่ต้องหาข้อมูลเพิ่ม

 

🚗 ทำความเข้าใจ “อัตราสิ้นเปลือง” คืออะไร?

ก่อนจะไปดูว่าใครประหยัดสุด เรามาทำความเข้าใจคำนี้กันก่อน

อัตราสิ้นเปลือง คือ ปริมาณน้ำมันที่รถใช้ต่อระยะทาง โดยวัดเป็น:

  • กิโลเมตรต่อลิตร (km/l) – ยิ่งเลขมาก แปลว่ายิ่งประหยัด
  • ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (l/100 km) – ยิ่งเลขน้อย แปลว่ายิ่งประหยัด

👉 ในไทยนิยมใช้หน่วย กิโลเมตรต่อลิตร (km/l) มากกว่า

โดยทั่วไป อัตราสิ้นเปลืองจริง จะขึ้นอยู่กับ:

  • พฤติกรรมการขับขี่
  • สภาพถนน (ในเมือง / นอกเมือง)
  • น้ำหนักบรรทุก
  • ประเภทเครื่องยนต์ (ดีเซล / เบนซิน / ไฮบริด)

 

🔟 10 รถกระบะยอดนิยมในไทย พร้อม อัตราสิ้นเปลือง รถกระบะ

1. Toyota Hilux Revo (2.4 ลิตร ดีเซล)

  • 🚘 ประหยัดเฉลี่ยในเมือง: 13.5 km/l
  • 🚀 ประหยัดเฉลี่ยนอกเมือง: 17.5 km/l
  • ⭐️ จุดเด่น: เครื่องยนต์ GD อึด ประหยัดน้ำมัน ทนทาน
  • 💬 ความเห็นผู้ใช้: “ขับไปต่างจังหวัด เติมน้ำมันทีเดียววิ่งได้เป็นพันโล”

2. Isuzu D-Max 1.9 Ddi Blue Power

  • 🚘 ในเมือง: 14.0 km/l
  • 🚀 นอกเมือง: 18.0 km/l
  • ⭐️ จุดเด่น: เครื่องยนต์เล็กแต่แรง อัตราสิ้นเปลืองดีที่สุดในตลาด
  • 💬 ความเห็นผู้ใช้: “คันนี้เอาชนะใจคนขับสายประหยัดได้จริง!”

3. Ford Ranger 2.0 Turbo

  • 🚘 ในเมือง: 11.0 km/l
  • 🚀 นอกเมือง: 15.5 km/l
  • ⭐️ จุดเด่น: ขับสนุก แรงบิดดี แต่กินน้ำมันกว่ายี่ห้ออื่นเล็กน้อย
  • 💬 ความเห็นผู้ใช้: “เร่งดี แต่ต้องยอมรับว่าเติมบ่อยกว่า D-Max”

4. Mitsubishi Triton 2.4 MIVEC

  • 🚘 ในเมือง: 13.0 km/l
  • 🚀 นอกเมือง: 17.0 km/l
  • ⭐️ จุดเด่น: เครื่องยนต์เบา ประหยัดในเมืองดี
  • 💬 ความเห็นผู้ใช้: “ไม่แรงเท่าบางรุ่น แต่ประหยัดและขับง่าย”

5. Nissan Navara 2.3 Twin Turbo

  • 🚘 ในเมือง: 12.5 km/l
  • 🚀 นอกเมือง: 16.0 km/l
  • ⭐️ จุดเด่น: ช่วงล่างหนึบ เครื่องยนต์แรงกำลังดี
  • 💬 ความเห็นผู้ใช้: “ขับทางไกลไม่ต้องกลัวเปลือง เติมน้ำมันไม่บ่อย”

6. Mazda BT-50 1.9

  • 🚘 ในเมือง: 13.8 km/l
  • 🚀 นอกเมือง: 17.2 km/l
  • ⭐️ จุดเด่น: ใช้เครื่องเดียวกับ D-Max ประหยัดไม่แพ้กัน
  • 💬 ความเห็นผู้ใช้: “สวย ประหยัด ขับดีเกินคาด”

7. Chevrolet Colorado 2.5

  • 🚘 ในเมือง: 11.5 km/l
  • 🚀 นอกเมือง: 15.5 km/l
  • ⭐️ จุดเด่น: โครงสร้างแข็งแรง แต่กินน้ำมันมากหน่อย
  • 💬 ความเห็นผู้ใช้: “ตอนซื้อไม่ได้คิดมากเรื่องน้ำมัน พอใช้งานจริงต้องวางแผนเติม”

8. MG Extender 2.0

  • 🚘 ในเมือง: 11.0 km/l
  • 🚀 นอกเมือง: 14.8 km/l
  • ⭐️ จุดเด่น: ราคาคุ้มค่า แต่เครื่องยนต์ยังไม่ประหยัดเท่ารุ่นท็อป
  • 💬 ความเห็นผู้ใช้: “ใช้งานทั่วไปโอเค แต่ถ้าขับเยอะอาจเปลืองกว่ายี่ห้ออื่น”

9. Toyota Hilux Revo BEV (ไฟฟ้า 100%) [โมเดลใหม่]

  • ⚡️ ระยะทางต่อชาร์จ: 200–250 กม.
  • 💸 ค่าใช้จ่ายต่อระยะทาง (เทียบเท่าน้ำมัน): ประมาณ 0.60 บาท/กม.
  • ⭐️ จุดเด่น: ไม่ใช้น้ำมันเลย เหมาะกับสายประหยัดพลังงาน
  • 💬 ความเห็นผู้ใช้: “ถ้าเน้นวิ่งในเมือง ชาร์จสะดวก ประหยัดสุดในยุคนี้”

10. GWM Poer / Tank 500 (เปิดตัวในไทยเร็ว ๆ นี้)

  • 🚘 ในเมือง: 13.0 km/l (เบื้องต้น)
  • 🚀 นอกเมือง: 16.0 km/l (จากการทดสอบในจีน)
  • ⭐️ จุดเด่น: ดีไซน์หรู ออฟชั่นเยอะ
  • 💬 ความเห็นผู้ใช้: “รุ่นนี้น่าจะทำให้ตลาดคึกคักขึ้นอีก”

 

🏆 สรุปอันดับความประหยัดแบบจัดลิสต์

อันดับ รุ่นรถ อัตราสิ้นเปลือง (เฉลี่ย)
🥇 1 Isuzu D-Max 1.9 16.0 km/l
🥈 2 Toyota Hilux Revo 2.4 15.5 km/l
🥉 3 Mazda BT-50 1.9 15.5 km/l
4 Mitsubishi Triton 15.0 km/l
5 Nissan Navara 14.5 km/l
6 Ford Ranger 13.3 km/l
7 Chevrolet Colorado 13.0 km/l
8 MG Extender 12.9 km/l
⭐️ 9 Toyota Hilux BEV
🔜 10 GWM Poer

 

💬 สรุปแบบคนใช้จริง

  • สายประหยัดตัวจริง – D-Max, BT-50, Revo ตัว 2.4 คือตัวเลือกที่ไม่ผิดหวัง
  • สายเท่ ขับดี ขนของได้ – Navara, Triton, Ranger ให้สมดุลกำลังและอัตราสิ้นเปลือง
  • สายประหยัดพลังงานยุคใหม่ – Revo BEV คือทางเลือกใหม่ในกลุ่ม “กระบะไฟฟ้า”
  • มือสองราคาดี ใช้งานได้ – Colorado, MG Extender ยังคุ้มถ้าได้ราคาดี

 

📌 เคล็ดลับขับรถกระบะให้ประหยัดน้ำมัน

  1. ไม่เหยียบแรงตอนออกตัว
  2. อย่าเบรกกระชั้นชิด
  3. เติมลมยางตามสเปกตลอด
  4. ไม่บรรทุกเกินกำลัง
  5. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองตามกำหนด

 

อ่านบทความเกี่ยวกับสินเชื่อรถกระบะเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ข้อมูลเว็บสินเชื่อรถยนต์จากธนาคารแห่งประเทศไทย

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *