สินเชื่อ 5 plus กรุง ไทย

“สินเชื่อกรุงไทย 5 พลัส” คืออะไร? คู่มือสมัครฉบับสมบูรณ์ใน 5 นาที

ในวันที่ชีวิตต้องการเงินก้อนแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นเหตุฉุกเฉิน, โอกาสในการลงทุน, หรือแม้แต่การวางแผนทำความฝันให้เป็นจริง การมองหา “สินเชื่อส่วนบุคคล” ดีๆ สักตัวคือหนึ่งในทางออกที่หลายคนนึกถึง แต่พอเริ่มหาข้อมูลเท่านั้นแหละ… โอ้โห! มีสินเชื่อเต็มไปหมดจนเลือกไม่ถูกเลยใช่ไหมครับ? และหนึ่งในชื่อที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินหรือเห็นผ่านตากันมาบ้างก็คือ “สินเชื่อ 5 plus กรุง ไทย” จากธนาคารกรุงไทย ธนาคารยักษ์ใหญ่สีฟ้าที่คุ้นเคยกันดี แต่หลายคนก็ยังอาจจะสงสัยว่า… ไอ้เจ้า “5 พลัส” เนี่ย มันคืออะไรกันแน่? มันดีจริงไหม? แล้วใครกันที่จะสมัครได้บ้าง? ก่อนอื่น เราต้องขอแจ้งให้ชัดเจนก่อนนะครับว่า สินเชื่อตัวนี้คือ “สินเชื่อส่วนบุคคลอเนกประสงค์” ไม่ใช่สินเชื่อรถยนต์นะครับ! เอาล่ะ! ไม่ต้องไปหาข้อมูลที่ไหนอีกแล้ว วันนี้ เรา จะมารับหน้าที่ไขทุกข้อข้องใจเกี่ยวกับสินเชื่อกรุงไทย 5 พลัส แบบทุกซอกทุกมุม ตั้งแต่ความหมายของชื่อ ไปจนถึงวิธีสมัครผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือแบบ Step-by-Step เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปทำความรู้จักกับหนึ่งในสินเชื่อส่วนบุคคลที่น่าสนใจที่สุดในตลาดกันเลย!


 

ถอดรหัส “สินเชื่อกรุงไทย 5 พลัส” มันคืออะไรกันแน่?

 

ให้เข้าใจแบบง่ายที่สุด “สินเชื่อกรุงไทย 5 พลัส” คือเงินกู้ก้อนหนึ่งที่ธนาคารกรุงไทยปล่อยให้เรายืมไปใช้จ่ายอะไรก็ได้ตามความต้องการ โดยที่เราไม่ต้องมีทรัพย์สินอะไรไปค้ำประกันเลย

คอนเซ็ปต์หลักของมันคือ “สินเชื่อส่วนบุคคลอเนกประสงค์” คำว่า “อเนกประสงค์” คือหัวใจสำคัญเลยครับ หมายความว่าหลังจากเงินก้อนนี้โอนเข้าบัญชีเราแล้ว เราจะเอาไปทำอะไรก็ได้เต็มที่ 100% ไม่มีการตรวจสอบหรือบังคับใดๆ ทั้งสิ้น เช่น:

  • เอาไปรีโนเวทบ้าน
  • เอาไปจ่ายค่าเทอมลูก
  • เอาไปเป็นเงินทุนตั้งต้นทำธุรกิจเล็กๆ
  • เอาไปรวมหนี้บัตรเครดิตที่ดอกเบี้ยแพงๆ ให้มาอยู่ที่เดียว
  • หรือเอาไปใช้จ่ายยามฉุกเฉิน

แล้วความลับของชื่อ “5 พลัส” ล่ะ? ชื่อของมันบอกคุณสมบัติเด่นที่สุดเอาไว้แล้วครับ

  • “5” มาจากจุดเด่นที่ให้ วงเงินกู้สูงสุดถึง 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน!
  • “พลัส (+)” หมายถึงสิทธิประโยชน์และความสะดวกสบายที่ “บวก” เพิ่มเข้ามาให้ ซึ่งก็คือการที่ไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือคนค้ำประกัน และความง่ายในการสมัครนั่นเอง

สรุปฟีเจอร์เด็ดๆ ของกรุงไทย 5 พลัส

  • วงเงินสูงสะใจ: ให้วงเงินสูงสุด 5 เท่าของเงินเดือน และไม่เกิน 1 ล้านบาท ทำให้เรามีเงินก้อนใหญ่พอที่จะไปจัดการกับปัญหาใหญ่ๆ ได้
  • ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน: ลดความยุ่งยากและความเกรงใจไปได้เยอะ ไม่ต้องไปวิ่งเต้นหาเพื่อนหรือญาติพี่น้องมาเซ็นค้ำประกันให้วุ่นวาย
  • ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน: ไม่ต้องมีบ้าน, ไม่มีรถ, ไม่มีที่ดิน ก็สามารถขอสินเชื่อตัวนี้ได้ อาศัยแค่เครดิตและความสามารถในการชำระหนี้ของเราล้วนๆ
  • สมัครสะดวกสุดๆ ผ่านแอป: นี่คือไม้เด็ดของยุคนี้เลย เราสามารถยื่นเรื่องขอสินเชื่อตัวนี้ได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT บนมือถือของเรา

 

ใครคือผู้โชคดีที่สามารถสมัคร สินเชื่อ 5 plus กรุง ไทย ได้? (เช็กคุณสมบัติที่สำคัญที่สุด)

 

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงเริ่มตาลุกวาวแล้วใช่ไหมครับ? แต่เดี๋ยวก่อน! สินเชื่อตัวนี้ไม่ได้เปิดให้ทุกคนนะครับ มันถูกออกแบบมาเพื่อคนกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็น “กฎเหล็ก” หรือ “ตั๋วผ่านประตู” ที่สำคัญที่สุดเลย

กฎเหล็กข้อที่ 1 และข้อเดียวที่สำคัญที่สุด: คุณจะต้องเป็น “พนักงานประจำ” ที่รับเงินเดือนผ่าน “บัญชีธนาคารกรุงไทย” เท่านั้น!

ใช่แล้วครับ! นี่คือเงื่อนไขหลักเลย ถ้าคุณเป็นพนักงานบริษัทเอกชนหรือข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่บริษัทหรือหน่วยงานของคุณทำสัญญาจ่ายเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงไทยอยู่แล้ว… ยินดีด้วยครับ! คุณคือกลุ่มเป้าหมายหลักของสินเชื่อตัวนี้เลย

ทำไมธนาคารถึงตั้งเงื่อนไขแบบนี้? เพราะมันคือการลดความเสี่ยงของธนาคารครับ การที่เงินเดือนของเราเข้าบัญชีกรุงไทยทุกเดือน ทำให้ธนาคารสามารถเห็นเส้นทางการเงินและรายรับที่แน่นอนของเราได้ทั้งหมด เขาสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าเรามีรายได้จริงเท่าไหร่ มีความมั่นคงแค่ไหน ซึ่งทำให้ขั้นตอนการพิจารณาสินเชื่อทำได้รวดเร็วและแม่นยำขึ้นนั่นเอง

คุณสมบัติอื่นๆ ที่ต้องมี:

  • ฐานเงินเดือน: โดยทั่วไปกำหนดไว้ที่ 30,000 บาทขึ้นไป
  • อายุงาน: มีอายุงานในที่ทำงานปัจจุบันไม่น้อยกว่า 1 ปี
  • อายุผู้กู้: อยู่ระหว่าง 20 ปี และไม่เกิน 60 ปี
  • ประวัติทางการเงิน: ไม่มีประวัติการผิดนัดชำระหนี้ หรือมีหนี้สินล้นพ้นตัว

 

ตัวอย่างการใช้งานจริง: สินเชื่อ 5 พลัส ช่วยอะไรในชีวิตเราได้บ้าง?

 

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นว่าสินเชื่อตัวนี้มันเจ๋งยังไง เราขอยกตัวอย่างสถานการณ์ในชีวิตจริงที่สินเชื่อกรุงไทย 5 พลัส จะเข้ามาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวได้เลยครับ

สถานการณ์ที่ 1: พี่เก่ง พนักงานออฟฟิศ อยากรีโนเวทห้องครัวให้แม่ พี่เก่งเป็นวิศวกร เงินเดือนเข้าบัญชีกรุงไทยเดือนละ 60,000 บาท เขาวางแผนจะรีโนเวทห้องครัวให้คุณแม่เป็นของขวัญวันเกิด ซึ่งต้องใช้เงินประมาณ 250,000 บาท พี่เก่งมีเงินเก็บอยู่ส่วนหนึ่งแต่ไม่อยากใช้จนหมด

  • ทางออก: พี่เก่งสามารถยื่นขอสินเชื่อกรุงไทย 5 พลัส ได้ในวงเงินสูงสุดถึง 300,000 บาท (60,000 x 5) เขาขอวงเงินไป 250,000 บาท และเลือกผ่อนสบายๆ 60 เดือน ทำให้เขาสามารถทำความฝันให้คุณแม่ได้สำเร็จ โดยที่ยังมีเงินเก็บสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน

สถานการณ์ที่ 2: น้องนุ่น AE สาวสวย อยากเคลียร์หนี้บัตรเครดิต น้องนุ่นมีบัตรเครดิตอยู่ 3 ใบ ซึ่งมีหนี้รวมกันอยู่ประมาณ 150,000 บาท ดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่ 16% ต่อปีทำให้น้องนุ่นจ่ายไปแต่ละเดือนแทบจะลดแต่ดอกเบี้ย เงินต้นไม่ลดลงเลย น้องนุ่นรับเงินเดือนผ่านกรุงไทยที่ 40,000 บาท

  • ทางออก: น้องนุ่นเห็นว่าดอกเบี้ยของสินเชื่อ 5 พลัส อยู่ที่ประมาณ 11-15% (สมมติ) ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิต เธอจึงยื่นขอสินเชื่อ 150,000 บาท เมื่อได้รับอนุมัติ เธอก็นำเงินก้อนนี้ไปโปะปิดหนี้บัตรเครดิตทั้ง 3 ใบจนหมด! ตอนนี้เธอก็เหลือหนี้แค่ก้อนเดียวที่ต้องผ่อนกับกรุงไทย ซึ่งมีดอกเบี้ยถูกลงและมีกำหนดชำระที่ชัดเจน ทำให้เธอวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้นเยอะมาก นี่คือการ “รวมหนี้” ที่ชาญฉลาดสุดๆ

 

คู่มือการสมัครผ่านแอป Krungthai NEXT แบบจับมือทำ

 

มาถึงไฮไลท์สำคัญกันแล้วครับ! นั่นคือขั้นตอนการสมัครที่ง่ายแสนง่ายผ่านแอป Krungthai NEXT ใครที่มีคุณสมบัติครบตามที่บอกไว้ข้างต้น สามารถหยิบมือถือขึ้นมาแล้วลองทำตามไปพร้อมๆ กันได้เลย

Step 1: เตรียมแอปให้พร้อม เข้าไปที่ App Store หรือ Play Store เช็กให้แน่ใจว่าแอป Krungthai NEXT ของเราเป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว

Step 2: เข้าสู่ระบบและค้นหาเมนูสินเชื่อ เปิดแอปและ Log in เข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย ที่หน้าหลัก ให้มองหาปุ่ม “บริการ” (Services) ที่อยู่แถบเมนูด้านล่าง เมื่อกดเข้าไปแล้ว ให้เลือกเมนู “สินเชื่อ” (Loans)

Step 3: เลือกผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อกรุงไทย 5 พลัส” ในหน้าสินเชื่อ คุณจะเห็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของธนาคาร ให้มองหาและเลือก “สินเชื่อกรุงไทย 5 พลัส” (บางครั้งอาจจะอยู่ในหมวดสินเชื่อบุคคล)

Step 4: กรอกข้อมูลและวงเงินที่ต้องการ ระบบของแอปจะดึงข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลรายได้ของเราที่ผูกกับบัญชีเงินเดือนขึ้นมาให้อัตโนมัติ หน้าที่ของเราคือกรอก “วงเงินสินเชื่อที่ต้องการ” และ “ระยะเวลาที่ต้องการผ่อนชำระ” ซึ่งแอปจะคำนวณค่างวดต่อเดือนให้เราเห็นทันที

Step 5: ให้ความยินยอมและกดยืนยัน อ่านรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ ให้ครบถ้วน จากนั้นกดยินยอมเปิดเผยข้อมูลเครดิตบูโร (NCB Consent) และกดยืนยันเพื่อส่งใบสมัครได้เลย

Step 6: รอผลการอนุมัติ (ที่อาจจะไวกว่าที่คิด!) หลังจากกดยืนยันไปแล้ว ก็ถึงเวลารอ… แต่เป็นการรอที่อาจจะสั้นมากๆ! เพราะธนาคารมีข้อมูลรายได้ของเราอยู่แล้ว ทำให้การพิจารณาทำได้รวดเร็วมาก บางคนอาจจะทราบผลภายในไม่กี่นาที หรือบางคนอาจจะภายใน 1-2 วันทำการ โดยจะมี Notification แจ้งเตือนผ่านแอปและ SMS

Step 7: เซ็นสัญญาอิเล็กทรอนิกส์และรับเงิน! เมื่อสินเชื่อได้รับการอนุมัติ แอปจะแจ้งให้เราเข้าไป “ลงนามสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Contract)” ภายในแอปเลย ไม่ต้องเดินทางไปเซ็นเอกสารที่สาขา! หลังจากกดยืนยันสัญญาเรียบร้อยแล้ว เงินกู้ทั้งก้อนก็จะถูกโอนเข้าบัญชีเงินฝากกรุงไทยของเราทันที! เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการที่สะดวกและรวดเร็วสุดๆ

 

 

“สินเชื่อกรุงไทย 5 พลัส” ไม่ใช่แค่สินเชื่อส่วนบุคคลธรรมดาๆ แต่มันคือเครื่องมือทางการเงินที่ทรงพลังและถูกออกแบบมาอย่างชาญฉลาดเพื่อ “พนักงานประจำที่รับเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงไทย” โดยเฉพาะ จุดเด่นของมันคือความลงตัวระหว่าง วงเงินที่สูง, เงื่อนไขที่ไม่ซับซ้อน (ไม่ต้องค้ำ), และความสะดวกสบายขั้นสุดในการสมัครผ่านแอปพลิเคชัน

มันเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการจัดการกับค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่วางแผนไว้ล่วงหน้า หรือการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างชาญฉลาด แต่ก็ควรใช้อย่างมีสติและมั่นใจว่าเรามีความสามารถในการผ่อนชำระคืนได้จริงๆ นะครับ

แม้ว่าความเชี่ยวชาญหลักของ เรา จะเป็นเรื่องสินเชื่อรถยนต์ แต่ เรา ก็เชื่อมั่นในการให้ความรู้ทางการเงินที่รอบด้านเพื่อให้เพื่อนๆ ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น การเข้าใจเครื่องมือทางการเงินดีๆ อย่างสินเชื่อ 5 พลัส ก็เป็นหนึ่งในนั้น หากคุณกำลังลังเลใจระหว่างการขอสินเชื่อส่วนบุคคลกับการนำรถไปรีไฟแนนซ์เพื่อเอาเงินสดออกมาใช้ เรา ก็พร้อมที่จะให้คำปรึกษาและช่วยเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย เพื่อให้คุณได้พบกับทางออกที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณที่สุดครับ!

 

อ่านบทความเกี่ยวกับสินเชื่อรถกระบะเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ข้อมูลเว็บสินเชื่อรถยนต์จากธนาคารแห่งประเทศไทย

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *